รู้จักดินแดนกายภาพ แอสทรัล คอเซิล เมนเทิล อีเธอริก และแดนสุญญตา

The Plane of Existences

แหล่งข้อมูล

เรียบเรียงจากหนังสือ : Eckankar Ancient Wisdom for Today

: The Venusian Trilogy

Physical Plane : มิติทางกายภาพ

ระนาบทางกายภาพ หรือมิติกายภาพ ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็คือดินแดนโลกภายภาพที่เรากำลังอาศัยอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงจักรวาลทั้งหมดที่เรารู้จัก ที่มีดาวเคราะห์ กาแล็กซี่ ละอองฝุ่นเนบิวล่า มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ หรือวัตถุต่างๆ ที่เรามองเห็นด้วยตาของเรา และเนื่องจากมิติทางกายภาพดำรงอยู่บนคลื่นพลังงานความถี่ต่ำ ทำให้เราซึ่งอาศัยอยู่ในมิตินี้มีข้อจำกัดในการทำสิ่งต่างๆ มากมาย เช่น ไม่สามารถนึกคิดเพื่อสร้างวัตถุ หายตัวไปที่อื่น หรือเดินผ่านทะลุกำแพงได้ นอกจากนี้มิติกายภาพยังใช้เป็นที่เรียนรู้ประสบการณ์ของจิตวิญญาณ โดยที่จิตวิญญาณของเราจะเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างกายภาพ หรือกายเนื้อในแบบที่เราเข้าใจ ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นยานพาหนะในการดำเนินชีวิต ที่ช่วยให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ความเป็นไปจากหลายแง่มุม ผ่านประสบการณ์และบทเรียนแห่งกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาและค้นพบตัวตนที่แท้จริงต่อไป

Astral Plane : มิติทางอารมณ์

จักรวาลแอสทรัลเป็นมิติทางการรับรู้รูปแบบหนึ่ง ที่มีระดับความสั่นสะเทือนของพลังงานสูงกว่ามิติทางกายภาพ ซึ่งทับซ้อนอยู่กับมิติกายภาพและมิติอื่นๆ ที่นี่เป็นเสมือนจักรวาลๆ หนึ่งที่มีผู้คน และสภาพแวดล้อมแบบเดียวกับมิติทางกายภาพ แต่ด้วยความถี่ทางพลังงานที่สูงกว่า ทำให้วัตถุที่ปรากฏอยู่ในมิติแอสทรัลมีความสวยงาม ละเอียดอ่อน รวมทั้งผู้คนที่นี่สามารถใช้ศักยภาพในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ออกมาจากความคิด หรืออย่างที่คนไทยเรียกว่า “การเนรมิต” นั่นเอง หลายๆ คนอาจจะเคยได้ฟังเรื่องราวความสามารถของเทวดา ที่ว่าเทวดานั้นไม่ต้องทานอาหาร เพียงแค่นึกคิดก็อิ่มได้แล้ว หรือแม้แต่จะเหาะ หายตัว หรือแปลงร่างก็ทำได้ ทั้งนี้ดินแดนสวรรค์-นรก มนุษย์ต่างดาว รวมทั้งความฝันของเราก็จัดเป็นส่วนหนึ่งในมิติแอสทรัลด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ เหล่านี้มนุษย์อาจไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ เพราะอยู่คนละมิติ หรือมีคลื่นความถี่ที่สูงกว่ากันมาก เหมือนกับรังสีเอ็กซ์ รังสีแกรมม่า ที่ตาของมนุษย์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้เช่นกัน แต่ต้องอาศัยเครื่องมือในการตรวจจับ นอกจากนี้มิติแอสทรัลยังเป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานในรูปของอารมณ์ ซึ่งบางครั้งอาจจะเรียกมิติแอสทรัลนี้ได้ว่า "มิติแห่งอารมณ์ (Emotional plane) โดยที่จิตวิญญาณของเราที่เดินทางเข้าสู่มิตินี้จะดำรงอยู่ด้วยกายแอสทรัล (กายแสง) หรือกายอารมณ์ (Emotional body) โดยที่ตัวตนของเราสามารถรับรู้อารมณ์ได้ชัดเจนในมิตินี้ (จิตวิญญาณขณะดำรงอยู่ที่มิติกายภาพจะอาศัยอยู่ในกายเนื้อ และเมื่ออยู่ในมิติแอสทรัลจะอาศัยอยู่ในกายแอสทรัล ซึ่งมีอารมณ์เป็นคุณสมบัติทางพลังงาน)

Causal Plane : มิติแห่งความทรงจำ

มิติคอเซิล เป็นมิติแห่งการรับรู้ในระดับที่สูงขึ้นกว่าระดับแอสทรัล และยังอยู่ภายใต้สภาวะเชิงมายา ในมิติคอเซิลยังคงพบบ้านเรือน ทิวทัศน์ ผู้คน และสิ่งต่างๆ ปรากฏให้เห็นอยู่อย่างสวยงามและละเอียดอ่อน ซึ่งมนุษย์ที่สามารถพัฒนาการรับรู้ไปจึนถึงความถี่ในระดับมิติคอเซิล ก็จะสามารถค้นพบบันทึกความทรงจำ หรือที่เรียกว่า Akashic records ซึ่งทำให้สามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆ ในอดีตชาติที่ผ่านมา

Mental Plane : มิติแห่งความคิด,จิตใจ

มิติเมนเทิล คือแหล่งกำเนิดของพลังงานความคิด โดยที่จิตวิญญาณได้ใช้กายแห่งความคิดนี้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดำเนินงานต่างๆ ภายในโลกกายภาพ และถึงแม้มิติเมนเทิลจะมีความสั่นสะเทือนอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่ผู้คนที่นี่ก็ยังมีการเวียนว่ายตายเกิด และคงสภาวะมายาไว้ไม่ต่างจากที่อื่นๆ โดยการจินตภาพยังมีปรากฏให้เห็น เช่น บ้านเรือน ทิวทัศน์ ผู้คน และสิ่งแวดล้อมที่มีความงดงาม นอกจากนี้คำว่า “โอม” ซึ่งใช้ท่องในกลุ่มศาสนาต่างๆ ก็ยังมีที่มาจากมิตินี้เช่นกัน

Etheric Plane : มิติแห่งจิตใต้สำนึก

มิติอีเธอริก เป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานจิตใต้สำนึก ซึ่งขั้นอยู่ระหว่างมิติระดับล่าง (Physical, Astral, Causal, Mental) กับมิติจิตวิญญาณ (Soul Plane) ในมิติอีเธอริกนี้ยังจัดอยู่ในมิติระดับล่าง ที่ยังมีกาลเวลาและอวกาศ และมีสภาพแวดล้อมที่สวยงามเช่นเดียวกับมิติอื่นๆ ที่กล่าวมา

Soul Plane : มิติจิตวิญญาณ

เป็นห้วงพลังงานบริสุทธิ์ที่อยู่นอกเหนือไปจากกาลเวลาและอวกาศ เป็นมิติที่จิตวิญญาณมีระดับการตระหนักรู้ในตนเองสูงสุด (ตามความเข้าใจของผู้เขียนมิติจิตวิญญาณนี้น่าจะหมายถึง "ดินแดนสุญญตา" ตามที่เราเรียกกัน)